NAI-24 ได้รับการออกแบบมาสำหรับสตูดิโอส่วนตัว มีขนาดกะทัดรัดและมาพร้อมหม้อแปลงเสียงคุณภาพสูง
โดดเด่นด้วยปรีแอมป์ไมโครโฟนแบบ discrete (ใช้ทรานซิสเตอร์แยกส่วน) Class A ที่ให้ค่า gain สูงสุดถึง 71dB และมี คอมเพรสเซอร์ แบบอนาล็อกที่ใช้งานง่าย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากคอมเพรสเซอร์คลาสสิกอย่าง 76 compressor
นอกจากนี้ยังรองรับอัตราการสุ่มตัวอย่างสูงถึง 32-bit/192kHz และสามารถสลับระหว่างโหมด audio interface สองโหมดเพื่อรองรับสภาพแวดล้อมการใช้งานที่แตกต่างกันได้
ด้วยวงจรคอมเพรสเซอร์ FET type 76PRE ที่ใช้ฮาร์ดแวร์วงจรแท้ๆ ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า และยังสามารถเลือกโหมดพรีเซ็ตที่หลากหลายผ่านการควบคุมแบบดิจิทัลเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน ช่องสัญญาณขาเข้าใช้ทรานซิสเตอร์แบบ discrete (ใช้ทรานซิสเตอร์แยกส่วน) Class A ซึ่งมีไดนามิกสูง และให้ค่า gain สูงสุดถึง 71 dB แต่ละช่องสัญญาณขาเข้ามีโหมด boost และ คอมเพรสเซอร์ 3 โหมด ในตัว
Boost Mode: เพิ่มอัตราขยาย (gain) ให้กับปรีแอมป์โดยรวมอีก 8dB ทำให้ได้อัตราขยายสูงสุดสำหรับไมโครโฟนถึง 71 dB
Vocal Compression Mode: ออกแบบมาสำหรับเสียงร้องโดยเฉพาะ มีค่า attack และ release ที่เหมาะสม ทำให้ได้เสียงที่นุ่มนวล
Guitar Compression Mode: มีการตอบสนองที่รวดเร็วและปล่อยเสียง (release) อย่างนุ่มนวล ซึ่งตั้งค่ามาเพื่อกีตาร์และเบสโดยเฉพาะ ทำให้ได้ระดับเสียงที่สมดุลและสม่ำเสมอ
Live Streaming Compression Mode: โหมดนี้มีลักษณะการบีบอัดเสียงที่รวดเร็วที่สุด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสัญญาณเสียงจะสมบูรณ์และมีความคมชัดระหว่างการไลฟ์สด
มาพร้อมชิปถอดรหัส AD/DA คุณภาพสูงระดับมืออาชีพจากผู้ผลิตชื่อดังอย่าง AKM (Asahi Kasei Microdevices)
หม้อแปลงเสียงระดับสตูดิโอที่ช่องเอาต์พุตหลัก (1L/2R) ซึ่งช่วยให้ได้เสียงที่อบอุ่นและเป็นเอกลักษณ์ พร้อมทั้งช่วยป้องกันการรบกวนของ ground loop ผ่านการแยกวงจรไฟฟ้า
(หมายเหตุ: แม้จะเชื่อมต่อเอาต์พุตแบบไม่บาลานซ์ที่ช่อง 1L/2R แต่ความแรงของสัญญาณเอาต์พุตแบบบาลานซ์ยังคงอยู่)
ออดิโออินเทอร์เฟซ ที่ใช้งานง่าย มีช่องสัญญาณเข้า 2 ช่อง และออก 4 ช่อง พร้อมปุ่มควบคุม 48V phantom power และปุ่มสลับ LINE IN แบบแยกอิสระ
นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ เช่น HI-Z input, ระบบมอนิเตอร์หูฟังแบบแยกอิสระ 2 ช่อง, การปรับมิกซ์เสียงมอนิเตอร์แบบ soft/hard, การสลับโหมดสเตอริโอด้วยคลิกเดียว และฟังก์ชัน loopback ด้วยคลิกเดียว
ด้วยค่าความหน่วง (latency) ที่ต่ำมากเพียง 3.17 มิลลิวินาที เมื่อตั้งค่าที่ 192kHz 32 sample buffer จึงสามารถตอบสนองความต้องการระดับมืออาชีพได้อย่างดีเยี่ยม
ด้วยการกดปุ่ม (OUT 3/4) ค้างไว้ คุณสามารถส่งสัญญาณขาออก (Output 3/4) ไปยังหูฟัง Headphone 2 เพื่อใช้ในการมอนิเตอร์ได้ (เช่น เมื่อเล่นแบ็กกิ้งแทร็กระหว่างการแสดง คุณสามารถตั้งค่าแทร็กเมโทรนอมแยกไปที่ (OUT 3/4) และส่งไปให้มือกลองผ่านหูฟัง Headphone 2)
ในโหมดนี้ คุณสามารถเชื่อมต่อลำโพงมอนิเตอร์แบบมีกำลังในตัว (active monitor speakers) เข้ากับช่องสัญญาณขาออก (1L/2R และ 3L/4R) พร้อมกัน และสลับการมอนิเตอร์ระหว่างลำโพงทั้งสองคู่ได้ด้วยการกดปุ่ม (OUT 3/4) เพียงครั้งเดียว
ในโหมดนี้ เมื่อคุณใช้ช่องสัญญาณหลัก (1L/2R) การกดปุ่ม (OUT3/4) จะทำให้คุณสามารถมอนิเตอร์เสียงที่ส่งไปยังช่อง 3/4 ได้ทันทีด้วยการกดเพียงครั้งเดียว (เช่น เมื่อซาวด์เอ็นจิเนียร์ต้องการมอนิเตอร์แทร็กที่ส่งไปยังนักดนตรีที่กำลังบันทึกเสียง)
ในโหมดการบันทึกเสียง คุณสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เอฟเฟกต์ภายนอกและอุปกรณ์แบบแร็คต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย เพื่อทำการบันทึกเสียงซ้ำ (re-recording)
NAI-24 มาพร้อมกับโปรแกรมทำเพลงระดับมืออาชีพ CUBASE 13 LE ที่มีลิขสิทธิ์ ช่วยสนับสนุนเส้นทางสายดนตรีของคุณ
ปรีแอมป์ แบบ Class-A ใช้ทรานซิสเตอร์แยกส่วน ให้ช่วงไดนามิกและความละเอียดสูงเป็นพิเศษ
วงจรคอมเพรสเซอร์ FET type 76PRE พร้อมโหมดพรีเซ็ตที่หลากหลายสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน
หม้อแปลงเสียง ระดับสตูดิโอที่ช่องเอาต์พุตหลัก 1L/2R ให้เสียงที่อบอุ่นและเป็นมืออาชีพ
ช่องเอาต์พุตเพิ่มเติม 3L/4R สำหรับสัญญาณเสียงเสริม เพิ่มความยืดหยุ่นในการตั้งค่าต่างๆ
แอมพลิฟายเออร์หูฟังประสิทธิภาพสูง 2 ตัว พร้อมช่องสัญญาณที่สามารถกำหนดเส้นทางได้เพื่อการมอนิเตอร์ที่ปรับแต่งเอง
ใช้พลังงานจาก USB ไม่จำเป็นต้องใช้อะแดปเตอร์ภายนอก
ไฟเลี้ยง 48V phantom power พร้อมปุ่มเปิด/ปิดแยกอิสระสำหรับแต่ละช่อง
ช่องมอนิเตอร์โดยตรง (direct monitoring) ที่มีความหน่วงต่ำมาก สำหรับการแสดงแบบเรียลไทม์
ส่งสัญญาณได้อย่างเสถียรและน่าเชื่อถือ ด้วยขั้วต่อ XLR และ 6.35 มม. คุณภาพสูง
ช่องเสียบไมโครโฟน (MIC IN)
ช่วงไดนามิก (Dynamic Range): 114dB (ถ่วงน้ำหนักด้วย A-weighted)
การตอบสนองความถี่ (Frequency Response): 20-20000Hz ± 0.1dB
ค่าความเพี้ยน (THD+N): 0.002%@-1dBFS (ที่อัตราขยายต่ำสุด)
เสียงรบกวนอินพุต (EIN): -126dB (ถ่วงน้ำหนักด้วย A-weighted)
ระดับอินพุตสูงสุด (Maximum Input Level): 6dBu (ที่อัตราขยายต่ำสุด)
ช่วงอัตราขยาย (Gain Range): 5.4-63dB
ความต้านทานอินพุต (Input lmpedance): 2.4kΩ
ช่องเสียบ Line-in (LINE IN)
ช่วงไดนามิก (Dynamic Range): 114dB (ถ่วงน้ำหนักด้วย A-weighted)
การตอบสนองความถี่ (Frequency Response): 20-20000Hz ± 0.12dB
ค่าความเพี้ยน (THD+N): 0.003%@-1dBFS (ที่อัตราขยายต่ำสุด)
ระดับอินพุตสูงสุด (Maximum Input Level): 26dBu (ที่อัตราขยายต่ำสุด)
ช่วงอัตราขยาย (Gain Range): -12.6-45dB
ความต้านทานอินพุต (Input lmpedance): 21kΩ
ช่องเสียบ HI-Z
ระดับอินพุตปกติ (Nominal input Level): -10dBu
ความต้านทานอินพุต (Input lmpedance): 1MΩ
ช่องเสียบ L/2R
ช่วงไดนามิก (Dynamic Range): 112 dB (แบบบาลานซ์, 600 Ω, ถ่วงน้ำหนักด้วย A-weighted)
การตอบสนองความถี่ (Frequency Response): 20-20000Hz ± 0.5dB
ระดับเอาต์พุตสูงสุด (Maximum Output Level): +12.4dBu (แบบบาลานซ์, 0dBFS)
ค่าความเพี้ยน (THD+N): 0.0015%@-1dBFS
ความต้านทานเอาต์พุต (Output lmpedance): 580Ω
ช่องเสียบ 3L/4R
ช่วงไดนามิก (Dynamic Range): 112dB (แบบบาลานซ์, 200kΩ, ถ่วงน้ำหนักด้วย A-weighted)
การตอบสนองความถี่ (Frequency Response): 20-20000Hz ± 0.1dB
ค่าความเพี้ยน (THD+N): 0.001%@-1dBFS
ระดับเอาต์พุตสูงสุด (Maximum OutputLevel): +18.4dBu (แบบบาลานซ์, 0dBFS)
ความต้านทานเอาต์พุต (Output lmpedance): 240Ω
ช่องเสียบหูฟัง (PHONES OUTPUT)
ช่วงไดนามิก (Dynamic Range): 104dB (ถ่วงน้ำหนักด้วย A-weighted)
การตอบสนองความถี่ (Frequency Response): 20-20000Hz ± 0.25dB
ค่าความเพี้ยน (THD+N): 0.005%@-5dBFS
กำลังขับ (Power Output): 30mW@32Ω
ขนาดและน้ำหนัก